วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือ หอศิลป์กรุงเทพฯ เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะตั้งอยู่ที่สี่แยกปทุมวัน กรุงเทพมหานคร


        โครงการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เริ่มต้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537 โดยกลุ่มศิลปินร่วมสมัยแห่งประเทศไทยนับพันคนได้จัดแสดงผลงานที่ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยหวังให้สังคมเห็นว่า มีศิลปินมากพอที่ควรจะมี หอศิลป์ มาเป็นพื้นที่รองรับในการแสดงออกผลงาน และเก็บรักษาผลงานในอดีตและประวัติศาสตร์ เป็นที่รวมกลุ่มศิลปิน เพื่อพบปะ แลกเปลี่ยนความคิด แนวการทำงาน ผลก็คือการผลักดันให้เกิดการพัฒนาของวงการศิลปะในบ้านเมืองนี้
         จากการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อสู้เพื่อให้มีหอศิลป์โดยเครือข่ายประชาชนและกลุ่มศิลปินที่ยาวนาน จนกระทั่งกรุงเทพมหานคร โดยผู้ว่าราชการฯ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้เล็งเห็นความสำคัญของศิลปวัฒนธรรม และได้วางนโยบายด้านศิลปวัฒนธรรมเป็นนโยบายหลัก โดยมุ่งเน้นการสร้างความรู้ ความเข้าใจ ของเด็ก เยาวชน และประชาชนในสังคม ให้ตระหนักถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม สภาแห่งกรุงเทพมหานครจึงได้อนุมัติงบประมาณดำเนินการก่อสร้างหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร 509 ล้านบาท
          เพื่อผลักดันให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ซึ่งหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (Bangkok Art and Culture Centre or bacc) ได้เริ่มก่อสร้างในที่ดินของกรุงเทพมหานคร บริเวณสี่แยกปทุมวัน และได้มีการเปิดโครงการหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครอย่างเป็นทางการ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2548



ระเบียบการเข้าชมนิทรรศการ

  • ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มเข้าในพื้นที่นิทรรศการ
  • ห้ามจับต้องผลงานโดยเด็ดขาด หากนำเด็กเล็กมาด้วยต้องดูแลไม่ให้จับต้องผลงาน 
  • ไม่ควรส่งเสียงดังรบกวนผู้ชมนิทรรศการท่านอื่น
  • การเข้าชมนิทรรศการชั้น 7-9 กรุณาฝากกระเป๋าและสัมภาระที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ชั้น 5 
  • ห้ามใช้แฟลซ และขาตั้งกล้อง ในการถ่ายภาพ
  • ห้ามถ่ายรูปในห้องนิทรรศการชั้น 7 8 9

สถานที่ตั้ง

     ริเวณสี่แยกปทุมวัน หัวมุมถนนพระรามที่ 1  และถนนพยาไทตรงข้ามมาบุญครอง และ สยามดิสคัฟเวอรี่, มีทางเดินเชื่อมต่อกับสถานีรถไฟบีทีเอส สนามกีฬาแห่งชาติ

เวลาทำการ

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เปิดให้เข้าชม ตั้งแต่เวลา 10.00 น. – 21.00 น.

ค่าเข้าชมฟรี!!!!!!


ขอบคุณข้อมูลจาก

วันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2557

น้ำตกพรหมโลก

หากคุณเป็นอีกคนที่รักการเที่ยวน้ำตก แน่นอนว่า "น้ำตกพรหมโลก" ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนเช่นกัน โดยน้ำตกนั้นตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของตำบลพรหมโลก อำเภอพรหมคีรี จังหวัดนครศรีธรรมราช น้ำตกแห่งนี้นับว่าเป็นน้ำตกที่มีความสวยงาม โดยขนาดใหญ่และสูงมาก เมื่อเทียบกับน้ำตกแต่ละแห่งภายในจังหวัด 


น้ำตกพรหมโลก (Phromlok Waterfall) คืออีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีลานหินกว้างและสวยงามแห่งหนึ่ง โดยน้ำตกมีต้นน้ำจากเทือกเขานครศรีธรรมราชไหลลงมาบนแผ่นหิน 4 ชั้น (หนาน) ได้แก่ หนานบ่อน้ำวน หนานวังไม้ปัก หนานวังหัวบัว หนานวังอ้ายแล สายน้ำไหลผ่านหมู่ไม้นานาพันธุ์ริมเชิงเขา แล้วไหลไปเป็นคลองท่าแพและลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลปากพูน 



นอกจากนี้แล้ว ในปี พ.ศ. 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระ บรมราชินีนาถ ได้เสด็จประพาสน้ำตกแห่งนี้ และทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ “ภ.ป.ร.” และ “ส.ก.” ไว้ที่หน้าผาน้ำตกชั้นที่ 1 (หนานวังน้ำวน) 





        การเดินทาง ห่างจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4016 (นครศรีธรรมราช - พรหมคีรี) ถึงกิโลเมตรที่ 20 มีทางแยกซ้ายเข้า ทางหลวง 4132 อีกประมาณ 5 กิโลเมตร 

ขอบคุณข้อมูลจาก 



วันอาทิตย์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2557

อ่าวโล๊ะซามะ เกาะพีพี

อ่าวโล๊ะซามะ , กระบี่


หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยและต่างประเทศ ที่ติดอันดับมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในเขตทะเลอันดามัน น้ำทะเลใสสะอาด ทรัพยากรทางทะเลยังคงสมบูรณ์อยู่ สถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นเวิ้งอ่าวแคบๆ มีน้ำทะเลสวยใส เป็นจุดดำน้ำตื้นที่สวยงามบนเกาะพีพีเล  อ่าวโล๊ะซามะ



อ่าวโล๊ะซามะ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูงมาก นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นประการังอ่อนหลากลายชนิดที่นี่ สีสันใต้ทะเลของ อ่าวโล๊ะสะมะ จัดได้ว่ามีสีสันเลยทีเดียว มีปลาน้อยใหญ่จำนวนมาก สีสันสวยงาม ใต้ท้องทะเลของอ่าวจะเป็นกองหิน ที่เต็มไปด้วยดอกไม้ทะเล ในวันที่อากาศแจ่มใส นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นปลาน้อยใหญ่ และกองหินแนวปะการัง ได้จากบนเรือเอง จนใครๆหลายคน อดใจไม่ได้ที่จะคว้าหน้ากาก พร้อมกับกระโดดลงไปว่ายน้ำกับฝูงปลาใหญ่น้อยในทะเล



การดำน้ำแบบ scuba diving ที่ อ่าวโล๊ะสะมะ ก็สวยงามเช่นกัน นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินกับการดำน้ำผ่านหน้าผาใต้ทะเล ที่เต็มไปด้วยกอกัลปังหา และประการังอ่อนหลากสีสันที่พริ้วไหวไปตามกระแสน้ำ บางทีอาจได้พบเห็นปลาฉลามกบ (Leopard Shark) ตัวโตในบริเวณนี้ก็ได้ แต่ไม่ต้องตกใจกลัว เพราะเค้าเป็นฉลามที่ใจดี (จะไม่ทำร้ายใครก่อน ถ้าเราไม่ไปยุ่งกับเค้าก่อนนะ)

      สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการผจญภัย สามารถเดินทะลุผ่านโพรงถ้ำเล็กที่ อ่าวโล๊ะสะมะ ไปทะลุอ่าวมาหยา อีกฝั่งของเกาะได้ ทางเดินนี้ไม่ไกลนัก อาจจะใช้ในช่วงที่อ่าวมาหยามีคลื่นแรง เรือไม่สามารถไปได้ พวกเราก็สามารถใช้เส้นทางนี้ได้ แต่ควรจะระวัง ไม่ควรใช้เส้นทางนี้ในขณะที่มี่คลื่นแรง และน้ำขึ้นสูงในช่วงบางฤดูหรือมี มรสุมกำลังเข้ามา

การเดินทาง

การเดินทางไปอ่าวโละซามะ สามารถเช่าเรือได้จากพีพีดอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หรือซื้อบริการทัวร์นำเที่ยวซึ่งจะประหยัดกว่า


ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก 


พิพิธภัณฑ์บางลำพู เข้าชมฟรี!!

พิพิธภัณฑ์บางลำพู



 “บางลำพู” ขึ้นชื่อว่าเป็นย่านการค้าเก่าแก่ทรงเสน่ห์ เป็นย่านของกินสารพัด มีความหลากหลายของวัฒนธรรมและผู้คนมายาวนาน ปัจจุบันบางลำพูยังขึ้นชื่อว่าเป็นย่านที่พัก แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งบันเทิงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักกันดีอีกด้วย 
       
       แต่แท้จริงแล้ว “บางลำพู” ยังมีอะไรมากมายกว่านั้น ถ้าได้มาชม “พิพิธบางลำพู” ก็จะได้รู้จักเสน่ห์ของบางลำพูอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โดย “พิพิธบางลำพู” นั้น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่บนถนนพระอาทิตย์ ซึ่งทางกรมธนารักษ์ผู้จัดสร้างได้ฉลองการเปิดใหม่ของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยการเปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรีเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย. 57 นี้



 ห้องนิทรรศการถัดมา คือ “ป้อมเขตขัณฑ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” ที่ทำให้เห็นความเป็นมาของเมื่อแรกเริ่มสร้างกรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี กลางห้องมีแนวกำแพงเก่าที่จำลองขึ้น ทำให้ทราบเรื่องราวของ “กำแพงป้องธานี” เกี่ยวกับการสร้างกำแพงพระนครและเกร็ดความรู้เรื่องการหล่ออิฐด้วยเทคนิคช่างโบราณ มีกำแพงเมืองแล้วก็ต้องมี “คูคลองล่องลำนำ” คูเมืองรอบพระนคร และคลองสำคัญต่างๆ ในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ทำให้เกิดย่านชุมชนย่านการค้าต่างๆ ขึ้น




     เข้ามาสู่ห้องจัดแสดงถัดไป “พระนครเซ็นเตอร์” เข้ามาในห้องนี้จะเห็นรถรางสีเหลืองคันใหญ่จอดรอผู้โดยสาร ทั้งยังเห็นเด็กน้อยยืนส่องแอบดูอะไรสักอย่างผ่านรูรั้วสังกะสี จนต้องไปส่องดูบ้างจึงรู้ว่าหลังรั้วสังกะสีนี้มีลิเกกำลังแสดงอยู่นี่เอง เด็กๆ สมัยนั้นไม่มีสตางค์มากพอจะซื้อตั๋วไปดูลิเกข้างใน ขอดูผ่านรูแบบนี้ก็สนุกได้ตามประสาเด็ก
       
       ทั้งรถรางและวิกลิเกล้วนเป็นตัวแทนของย่านบางลำพูในอดีต ซึ่งสมัยก่อนต้องถือว่าย่านนี้เป็นศูนย์รวมความเจริญทั้งหลาย มีจุดตัดรถรางอยู่ในบริเวณนี้ ทั้งยังเป็นแหล่งรวมมหรสพความบันเทิงที่เฟื่องฟูที่สุดในพระนคร มีทั้งโรงภาพยนตร์บุศยพรรณ โรงลิเกหอมหวน ห้าง ต.เง็กชวน ถนนสิบสามห้าง รวมไปถึงร้านรวงมีชื่อต่างๆ ถ้าจะเปรียบกับสมัยนี้ กล่าวได้ว่าบางลำพูเป็นเหมือนสยามเซ็นเตอร์ในสมัยนั้นก็ว่าได้


สถานที่ตั้ง

      ตั้งอยู่บนถนนพระสุเมรุ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ เปิดให้เข้าชมทุกวันในเวลา 10.00-18.00 น. โดยไม่มีวันหยุด และเข้าชมฟรีเป็นเวลา 2 เดือน ตั้งแต่วันนี้-30 ก.ย. 57 และหลังจากนั้นจะเปิดเฉพาะวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดให้บริการทุกวันจันทร์) 10.00-18.00 น. และมีค่าเข้าชม 100 บาท ทั้งนี้จะเปิดเข้าชมเป็นรอบ ทุกๆ 30 นาที โดยเข้าชมรอบแรกเวลา 10.00 น. และเข้าชมรอบสุดท้ายเวลา 16.00 น. ทั้งนี้ผู้ชมสามารถเดินดูห้องจัดแสดงชั่วคราว (ชั้น 1 อาคารปูน) ได้ตามอัธยาศัยโดยไม่จำกัดเวลาภายในวันที่ระบุในบัตรเข้าชม ยกเว้นส่วนนิทรรศการถาวร (อาคารไม้ และชั้น 2 อาคารปูน) ซึ่งทางอาคารจำเป็นต้องสงวนสิทธิ์ในการเข้าชมเฉพาะรอบเวลาที่ระบุไว้ในบัตรเข้าชมเท่านั้น

การเดินทาง

     มีรถประจำทางสาย 3, 6, 9, 30, 32, 33, 53, 64, 524 ผ่าน และสามารถมาทางเรือด่วนเจ้าพระยา โดยขึ้นที่ท่าพระอาทิตย์ได้ สอบถามโทร.0 2629 1850


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก


วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Play House เปิดแล้วนะ รู้ยัง!?

Play House สยาม สแควร์ วัน


เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2557 ที่สยามสแควร์ วัน ได้มีการเปิดตัวแหล่งช้อปปิ้งที่ชื่อว่า Play House เป็นร้านสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบการ์ตูนต่างๆนานาหลากหลายชนิด อาทิเช่น ตัวการ์ตูนจากดิสนีย์ที่ใครๆก็รู้จักกันดี ภายในร้านจะมีสินค้าจำพวกของเล่นมากมาย จนที่ไม่ว่าใครๆก็คิดว่าตัวเองตกอยู่ในโลกของการ์ตูนจนยากที่จะไม่ซื้อติดมือกลับมา 






อีกทั้งภายในร้านยังมีโมเดลน่ารักๆ และถ้าใครๆที่อยากจะซื้อสำหรับเป็นของขวัญในวันเกิด ที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ที่เหมาะมากๆสำหรับของขวัญ
โมเดลการ์ตูนมากมายเหล่านี้ ไม่ได้มีแค่การ์ตูนจากดิสนีย์เพียงอย่างเดียว ยังมีการ์ตูนจากภาพยนตร์สุดฮิตที่ทุกคนชื่นชอบอีกต่างหาก เช่น สไปเดอร์แมน ไอรอนแมน 









ใครๆที่ไปที่ร้าน Play House หาไม่ยาก ชั้น 3 ศูนย์การค้าสยาม สแควร์ วัน (ตกข้ามสยามพารากอน)
ปทุมวัน, กรุงเทพมหานคร
เปิดทุกวัน จันทร์ - อาทิตย์ 10.00น. - 22.00น.


สามารถติดต่อได้ที่ 

ขอบคุณข้อมูลจาก 

วันจันทร์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2557

เขาค้อ เมืองน้ำหนาว

เขาค้อ ทะเลหมอก


ทะเลหมอกบนเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

บริเวณที่เกิดทะเลหมอกบนเขาค้อ คือบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย ซึ่งอยู่ด้านล่างของถนนเส้นทางหลักสาย 2196 บริเวณใกล้ๆ กับที่ทำการอำเภอเขาค้อ สามารถชมทะเลหมอกได้เป็นระยะทางค่อนข้างยาวไกล ในช่วงเช้า ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ถึงเวลาประมาณ 8 โมงเช้า และที่เขาค้อยังมี ทั้งบ้านพักและรีสอร์ทมากมาย อีกทั้งยังกางเต้นท์นอน เพื่อชมทะเลาหมอกที่หน้าบ้านที่พักกันเลย 



ปกติสามารถชมทะเลหมอกได้เกือบทุกวันในช่วงฤดูฝน และฤดูหนาว โดยเฉพาะวันที่มีความชื้นสูงและไม่มีลม แต่ทุกคนก็ต้องทำใจยอมรับในวันที่ไม่มีทะเลหมอกเพราะเนื่องจากว่าสภาพอากาศที่ไม่ยืนยันแน่นอนได้ อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะไม่พบกับทะเลหมอกอย่างน้อยก็ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและชมวิวทิวทัศที่สวยงาม บนยอดเขาในมุมสูง



รับรองความสวยงามของธรรมชาติ สำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงไหลในธรรมชาติบรรยากาศต่างๆของธรรมชาติ ไม่ควรพลาด!! ทะเลหมอกเขาค้อ

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บ

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว


วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว อยู๋ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ อ.เขาค้อ สถานที่อันเป็นธรรมภูมิที่งดงาม ซึ่งเรียกว่าผาซ่อนแก้วนี้ มีธรรมชาติเป็นภูเขาที่สูงใหญ่ ซ้อนกันเป็นทิวเขาเรียงรายโอบรอบบริเวณศาลาปฏิบัติธรรม และบนยอดเขาสูงตระหง่านนั้น มีถ้ำอยู่บนปลายยอดเขา ซึ่งมีชาวบ้านทางแดงหล่ยคนพบเห็นลูกแก้วลอนฟ้าและลับหายไผในถ้ำบนเขาผา ชาวบ้านถือว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุเสด็จมาและต่างถือว่าเป็นสถานที่มงคล





ส่วนความงดงามด้านศิลปกรรม จากสิ่งก่อสร้างในบริเวณวัด ช่นรูปเครื่องเบญจรงค์ เพชร พลอย กระเบื้องแตก และเครื่องประดับต่างๆ ที่นำมาประกอบเป็นส่วนหนึ่งของเจดีย์ รูปปริศนาธรรมจากการก่อสร้างหลายจุด รวมถึงพระพุทธรูปปางต่างๆ มากมาย แต่ละองค์ล้วนมีความอ่อนช้อยงดงาม และแหล่งที่มาที่แตกต่างกัน





แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเตือนักท่องเที่ยว คือการเที่ยวชมมักมีขอบเขต โดยเฉพาะการส่งเสียงดังและการแต่งกายให้สุภาพ เพราะว่าถานที่ปฏิบัติธรรม และใช้เป็นสถานที่วิปัสสนากรรมฐาน ดังนั้น จึงอยากให้นักท่องเที่ยวเข่งคัดกับข้อจำกัดขอบเขตนี้
ทะเลหมอก ในช่วงฤดูหนาว

ศาลาปิฏิบัติธรรม
อยากให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติอันสวยงามนี้ มากันเยอะๆนะคร่าาา~
แล้วคุณจะรู้ว่าความสวยงามของธรรมชาติที่แท้จริงเป็นเช่นไร....

ที่ตั้ง


อยู่บริเวณบ้านทางแดง เลขที่ 95 หมู่ 7  ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 67280 หากเดินทางมาทางหล่มสัก ใช้ถนนสาย 12 ขึ้นเขาค้อ ถึงบริเวณชุมชมห้วยไผ่ถนนใหญ่ มีร้านสะดวกซื้อเซเว่นอยู่ทางขวามือ มองผ่านเซเว่นเข้าไป ก็เห็นเจดีย์ผาซ่อนแก้วอยู่ไกลๆ ไปกลับรถหน้าปั๊มน้ำมัน พีที แล้วเลี้ยวลงบ้านทางแดงได้เลย

หากลงมาจากเขาค้อ ถึงแยกแคมป์สน ให้เลี้ยวขวาไปอีกประมาณ 3 กม. จะเห็นป้ายบอกทางวัดพระธาตุผาแก้วตรงทางลงบ้านทางแดง เลี้ยวซ้ายลงไปอีก 3 กม.ก็ถึง

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณเจ้าของภาพตามเครติตรูป!!

วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2557

มอหินขาว ที่ที่คุณจะไม่มีวันลืม

มอหินขาว 


            มอหินขาวเป็นอีกแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและมีความงดงามทางธรรมชาติอย่างมาก มอหินขาวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาตภูแลนคา จังหวัดชัยภูมิ เดิมที่บริเวณแห่งนี้เป็นป่า ต่อมาก็มีคนทำเป็นไร่เป็นนาและก็มีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ไปทั่ว แต่ที่น่าประหลากคือหินขนาดใหญ่ 5 ก้อน ที่ชาวบ้านเล่าว่า ในทุกคืนวันพระ(15 ค่ำ, 8 ค่ำ) มีแสงสีขาวส่องสว่างขึ้นมาอย่างน่าแปลกใจ คนแถวนั้นเลยเรียกว่า มอหินขาว หรือ สโตนเฮนจ์เมืองไทย

นอกจากนี้หากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวในฤดูฝน จะได้พบเห็นธรรมชาติประติมากรรมธรรมชาติของเสาหินแล้วยังจะได้พบดอกไม้ป่าที่บานสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวอีกด้วยย 



ธรรมชาติในช่วงเย็นก็สวยไม่แพ้กัน 
และที่มอหินขาวนี้ ยังเป็นสถานที่ที่ดูดวงดาวบนท่องฟ้าที่คนแถวนนี้นิยมอีกด้วย




สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.025620760



ขอบคุณข้อมูลจาก

และภาพจาก
ปล. รูปภาพเป็นของคุณ surattsc